วันศุกร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2557

ประโยชน์ของป้ายโฆษณา พนักงานขายต้องทราบ












หลากสาระน่ารู้เรื่อง “ป้ายโฆษณา”
ในการทำการตลาด โฆษณาประชาสัมพันธ์สินค้า “ป้ายโฆษณาสินค้า” เป็นวิธีโปรโมตหนึ่งที่มีผลต่อผู้บริโภคอย่างมาก เนื่องจากป้ายโฆษณาเป็นสื่อที่กว้างขวาง เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้หลากหลายและชัดเจน ตัวอย่างที่เห็นได้ง่ายที่สุด เช่น ป้ายโฆษณาตามทางด่วนหรือบนตึกสูง ป้ายขนาดใหญ่ ตัวอักษรโดดเด่นดึงดูดตา แน่นอนว่าผ่านสายตาของคนเป็นหมื่นๆ คนทุกวัน นอกจากนี้อีกตัวอย่างหนึ่งที่เห็นได้บ่อยนั่นก็คือ ป้ายหาเสียงของนักการเมือง ฤดูกาลเลือกตั้งมาเยือนเมื่อไหร่ ป้ายแนะนำผู้สมัครล้นเมืองเมื่อนั้น
ดังนั้นสรุปแล้ว ป้ายโฆษณา คือ สื่อประเภทหนึ่งที่สามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวสินค้า หรือการแนะนำให้คนอื่นรู้จักสินค้า ผ่านรูปภาพ ถ้อยคำที่สั้น กระชับ โดดเด่น ไว้สำหรับเผยแพร่ในที่สาธารณะ สามารถเข้าถึงกลุ่มคนได้มาก และนับได้ว่าเป็นสื่อโฆษณาที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในทุกวงการในปัจจุบันอีกด้วย
ประโยชน์ของป้ายโฆษณา
เคยสงสัยกันหรือไม่ว่า สื่อในการโฆษณามีหลากหลาย แต่ทำไมสินค้าหลายประเภทถึงเลือกใช้ป้ายโฆษณาเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ หากใครมีคำถามนี้อยู่ในสมอง มาอ่านข้อมูลส่วนนี้กันแล้วจะรู้ว่าประโยชน์ของโฆษณามีมากกว่าที่คิดหลายเท่าทีเดียว
1) ดึงดูดความสนใจได้ดี
ถ้าให้คุณเลือกอ่านข้อความจากสื่อสองสื่อนี้ คุณจะเลือกอ่านข้อความจากอะไรก่อน ระหว่าง ป้ายโฆษณาขนาด 1.5 เมตร กับ โบรชัวร์โฆษณาที่วางอยู่บนโต๊ะ แน่นอนว่าถ้าคุณยืนอยู่ในระยะ 5 เมตร คุณจะต้องเห็นข้อความบนป้ายโฆษณาก่อนและสามารถอ่านข้อความทั้งหมดจบได้ในครั้งแรกที่เห็น ซึ่งต่างจากโบรชัวร์ที่วางไว้ที่โต๊ะ กว่าจะรับข้อมูลได้คุณจะต้องเดินไปเพื่อหยิบมันขึ้นมาอ่าน ดังนั้นจากข้อนี้สรุปได้อย่างดีว่าป้ายโฆษณาดึงดูดความสนใจได้ดีกว่าสื่ออีกหลายประเภท เนื่องจากป้ายโฆษณามีขนาดใหญ่ ตัวอักษรขนาดใหญ่นั่นเอง
2) เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มาก
หากจัดประเภทป้ายโฆษณา ก็คงจัดให้อยู่ในหมวดของสื่อโฆษณากลางแจ้ง ทั้งในรูปแบบโปสเตอร์ ไวนิล บิลบอร์ดและอื่นๆ ป้ายโฆษณานอกจากจะดึงดูดความสนใจได้ดีแล้ว ยังเป็นอิสระในการหาพื้นที่จัดวางเพื่อให้เหมาะสมสำหรับกลุ่มเป้าหมาย ดังนั้นก่อนการติดตั้งป้ายโฆษณาจึงจำเป็นต้องวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายเสียก่อน เช่น โฆษณารถยนต์ หากต้องการประชาสัมพันธ์ให้ลูกค้าได้รู้ถึงรถยนต์รุ่นใหม่ล่าสุด พื้นฐานอาจจะต้องเป็นคนมีฐานะ มีรถขับอยู่แล้ว ดังนั้นป้ายโฆษณาชิ้นนี้อาจติดเป็นป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ตามทางด่วน เพื่อให้เห็นอย่างทั่วถึงครบทุกด้าน
3) ต้นทุนต่ำ
หลายคนสงสัยว่าการทำป้ายโฆษณาใช้ต้นทุนต่ำจริงหรือ ขออธิบายเพิ่มเติมว่าในการลงทุนทำป้ายโฆษณาต่อหนึ่งชิ้นอาจแพงกว่าสื่ออื่นๆ แต่หากเทียบคุณภาพกับจำนวนที่ต้องผลิตสามารถลดต้นทุนในการผลิตได้ โดยให้ผลประโยชน์เท่ากัน เช่น ต้องการทำสื่อให้ถึงกลุ่มเป้าหมาย 500,000 คน ผู้ผลิตอาจเลือกทำป้ายขนาดใหญ่ติดบนตึกที่มีรถผ่านสม่ำเสมอ ลงทุน 200,000 บาท/ชิ้น แต่ทำเพียง 2 ชิ้น (ใช้งบ 400,000 บาท) หรือทำสื่อโบรชัวร์เฉลี่ยใบละ 2 บาท จำนวน 500,000 แผ่น (ใช้งบ 1,000,000 บาท) จะเห็นได้ว่าในปริมาณเป้าหมายที่เท่ากัน การทำป้ายโฆษณาช่วยลดต้นทุนได้มากกว่า และถ้าป้ายทำจากวัสดุที่มีคุณภาพก็ยิ่งอยู่ได้นาน คุ้มมากขึ้น
ประเภทของป้ายโฆษณา
ป้ายโฆษณาที่เห็นทั่วไปมีทั้งขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ แต่ละอย่างเรียกต่างกันตามรูปแบบ ดังนี้
1) ป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ หรือ บิลบอร์ด (Billbord) คือ ป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ตามทางถนนทั่วไป บนอาคารสูง สี่แยก สะดุดตา ดังรูป
ป้ายโฆษณา
                2) ป้ายโฆษณาทางเท้า หรือ คัตเอาท์ (Cut out) คือป้ายขนาดไม่ใหญ่มาก มองเห็นในระดับสายตา เช่น ป้ายหาเสียงนักการเมือง ป้ายโฆษณาหน้าร้าน เป็นต้น ดังรูป
Cut Out
Credit ภาพ :   www.komchadluek.net
                3) แผ่นภาพโปสเตอร์ (Poster) คือ สื่อสิ่งพิมพ์ที่มีลักษณะเป็นแผ่นเดียว พิมพ์ด้วยกระดาษขนาดต่างๆ สามารถนำไปแปะตามที่ต่างๆ ได้ ดังรูป
Poster
                4) ป้ายโฆษณาทางอินเทอร์เน็ต หรือ แบนเนอร์ (Banner) คือ ป้าย/ภาพโฆษณาขนาดต่างๆ ที่ติดอยู่ตามเว็บไซต์ต่างๆ ปัจจุบันการโฆษณาทางอินเทอร์เน็ตได้รับความนิยม เพราะคนใช้อินเทอร์เน็ตเยอะ ในเว็บไซต์ดังๆ มีรายได้โดยตรงมาจากการเก็บค่าโฆษณา ราคาค่าโฆษณาของแต่ละเว็บไซต์แตกต่างกันขึ้นอยู่กับการกำหนดราคาของเว็บไซต์ โดยมีตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักล้านเลยทีเดียว
สิ่งที่ต้องคำนึงก่อนลงมือทำ “ป้ายโฆษณา”
            รู้จัก “ป้ายโฆษณา” กันไปเบื้องต้นแล้ว คราวนี้มาดูองค์ประกอบของป้ายโฆษณากันต่อว่าในป้ายโฆษณา 1 แผ่น ต้องมีส่วนประกอบสำคัญๆ อะไรบ้างที่เราควรนึกถึง
1) วัสดุของป้ายโฆษณา
ป้ายโฆษณามีหลายรูปแบบ วัสดุที่ใช้ทำป้ายโฆษณาก็มีหลายชนิดเช่นเดียวกัน วิธีการเลือกวัสดุใช้ทำป้ายโฆษณาไม่ยาก อย่างแรกต้องรู้ก่อนว่าเราทำป้ายโฆษณาแบบไหน ต้องการให้อยู่นานคงทนหรือไม่ จะตั้งภายในหรือภายนอกอาคาร มีงบประมาณเท่าไหร่ เนื่องจากวัสดุแต่ละประเภทมีคุณสมบัติและราคาต่างกัน เช่น ใช้ไม้ ก็อาจจะมีราคาถูกกว่าป้ายผ้าไวนิล แต่ป้ายที่ทำจากไม้อาจไม่เหมาะสมสำหรับการติดตั้งในที่สูงๆ เป็นต้น สำหรับวัสดุที่ใช้ทำป้ายอื่น เช่น แผ่นอะลูมิเนียม แผ่นพลาสติกอะคลิลิก แผ่นพลาสวูด เป็นต้น
2) ขนาดของป้ายโฆษณา
ขนาดของป้ายโฆษณามีความสำคัญมากสำหรับการทำป้ายโฆษณา เพราะเป็นปัจจัยที่มีผลกระทบต่อส่วนอื่นๆ เช่น ถ้าต้องการใช้ป้ายโฆษณาใหญ่ ราคาก็จะสูงตามไปด้วย เพราะใช้วัสดุขนาดใหญ่กว่าเดิม ค่าผลิตส่วนอื่นๆ ก็จะแพงขึ้น แต่ก็มีข้อดีอยู่เหมือนกัน คือ สามารถใส่ข้อความได้มากขึ้นหรือใหญ่ขึ้นกว่าเดิม รวมถึงคนสามารถมองเห็นได้ชัดเจนกว่า ดังนั้นไม่ว่าจะขนาดใด ก่อนลงมือสั่งทำป้ายโฆษณาควรวางแผนและออกแบบมาให้แน่นอนก่อน ว่าต้องการให้คนเห็นขนาดไหน จะไปตั้งที่ใด เพื่อให้ได้ป้ายโฆษณาที่ราคาเหมาะสมกับคุณภาพ และใช้งานได้ดีตรงตามวัตถุประสงค์
3) ข้อความในป้ายโฆษณา
สิ่งที่ต้องคำนึงอีกข้อหนึ่งในการทำป้ายโฆษณา คือ ข้อความ ที่จะต้องนำเสนอสิ่งที่ต้องการสื่อถึงผู้รับสารจริงๆ โดยจะต้องบริหารจัดสรรพื้นที่ของป้ายโฆษณากับข้อความที่ต้องการใส่ เพื่อให้ข้อความออกมาพอเหมาะพอดี เพราะถ้าข้อความหนาแน่นมากจะทำให้ตัวอักษรเล็กลง มองไม่เห็นและไม่น่าอ่าน ดังนั้นข้อความโฆษณาบนป้ายโฆษณาถือเป็นพ้อยท์ที่ควรให้ความสำคัญเช่นกัน
4) การออกแบบป้ายโฆษณา
ปัจจุบันการทำป้ายโฆษณาค่อนข้างสะดวกสบาย สำหรับผู้ที่ไม่มีพื้นฐานด้านการออกแบบเลยก็สามารถจ้างร้านออกแบบให้ออกแบบโฆษณาได้ เรียกว่าแทบจะครบวงจร ทั้งออกแบบและผลิตออกมาเป็นป้ายโฆษณา
ซึ่งตามร้านที่รับออกแบบป้ายโฆษณาอยู่แล้วจึงไม่ค่อยน่าห่วง เพราะกลุ่มคนที่ทำงานเหล่านี้ได้น่าจะมีพื้นฐานด้านการออกแบบและมีหัวศิลปะอยู่พอสมควร ก็จะรู้ว่าอะไรเหมาะไม่เหมาะ แต่สำหรับคนทั่วไปที่ต้องการทำป้ายโฆษณาเอง การออกแบบจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง โดยหลักการก็ไม่มีอะไรมากมาย ควรเน้นในเรื่องของความคิดสร้างสรรค์ สามารถสื่อความหมายได้ดี และควรออกแบบให้ข้อมูลมีความเป็นระเบียบ สวยงาม และชัดเจน ทั้งข้อความและภาพประกอบ
5) ทำเลที่ตั้งป้ายโฆษณา
จุดประสงค์ของการทำป้ายโฆษณา คือ เพื่อเผยแพร่ ประชาสัมพันธ์ โฆษณาสินค้า หรือบริการใดๆ ก็ตามให้ผู้รับสารได้เห็น ดังนั้นสถานที่ที่ใช้ติดป้ายโฆษณาต้องติดในตำแหน่งที่คนทั่วไปสามารถมองเห็นได้ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นภายนอกหรือภายในอาคาร ไม่ควรมีอะไรมาบดบังข้อความและสารที่โฆษณาบนป้ายโฆษณา

ทำป้ายโฆษณาอย่างไรให้โดน!!
                เคยสังเกตตัวเองไหมว่าทำไมเวลาเดินผ่านป้ายโฆษณาบางอย่างถึงสะดุดตา เห็นแล้วชวนให้หยุดมองหยุดอ่าน ในขณะที่บางป้ายโฆษณากลับมองเมินไปเฉยๆ เดินผ่านเดือนนึงยังไม่รู้เลยว่าป้ายโฆษณานั้นเขียนว่าอะไร สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นเกิดขึ้นจากความน่าสนใจของตัวป้ายโฆษณานั่นเอง ซึ่งมีผลโดยตรงต่อความรู้สึกของผู้ผ่านไปมา หากทำดีน่าสนใจคนก็จะมอง แต่ถ้าไม่น่าสนใจ ป้ายโฆษณานั้นก็ไร้ผล และในหัวข้อนี้ก็จะมาพูดถึงการทำป้ายโฆษณาให้น่าสนใจ ให้เด่น ให้โดน เพื่อสร้างมูลค่าให้กับสินค้า
1) ป้ายโฆษณาต้องเข้าใจง่าย หมายความว่า จะต้องสื่อสารชัดเจน อ่านรอบเดียวสามารถเข้าใจแก่นที่ต้องการสื่อสารได้ ไม่ต้องตีความหลายชั้น เพราะทำให้เกิดความเบื่อหน่ายและไม่ถึงดูดใจ
2) ขนาดของป้ายมีความเหมาะสม ทั้งทำเลที่ตั้งและข้อความที่ต้องการสื่อ เช่น ทำป้ายคัตเอาท์สูง 2 เมตร กว้าง 2 เมตร จะให้ไปไว้ในอาคารก็คงไม่ไหว ขนาดใหญ่เช่นนี้ควรตั้งไว้ที่กลางแจ้ง เพราะป้ายขนาดใหญ่ทำให้เป็นที่เห็นเด่นชัด ในทางตรงกันข้ามถ้าใช้ป้ายผ้าไวนิลขนาด 1×2 นิ้ว ติดบนตึกชั้น 3 ก็ไม่เหมาะสมเช่นกัน เพราะมีขนาดเล็กเกินไป
3) ไอเดียดี งานโฆษณาปัจจุบันต่างจากงานโฆษณาสมัยก่อนอย่างมาก ในอดีตผลงานโฆษณามีเพื่อบอกชนิดสินค้า ประโยชน์ของมันเท่านั้น แต่ในสมัยนี้โฆษณาทุกสื่อเน้นขายไอเดีย เห็นแล้วต้องอึ้ง ชวนให้เกิดความรู้สึกต่างๆ ทั้ง สุข เศร้า ขบขัน และอึ้ง ตัวอย่างเช่น ผลงานโฆษณาของไทยประกันชีวิต ในส่วนของป้ายโฆษณาจะเห็นไอเดียโดนๆ ได้จากผลงานโฆษณาต่างประเทศ ซึ่งผู้เขียนได้ยกตัวอย่างมาให้ดูในท้ายบทความนี้
ดังนั้นถ้าอยากให้ป้ายโฆษณาของตัวเองโดน เด่น และเป็นที่พูดถึง ควรมีความสร้างสรรค์ ใส่ไอเดียเข้าไปพอสมควร เพียงเท่านี้ก็เพิ่มคุณค่าให้งานโฆษณาของเราเป็นที่น่าจดจำแล้ว
4) รูปภาพเหมาะสมกับข้อความ หลายครั้งที่ป้ายโฆษณาประสบความสำเร็จเพราะภาพและข้อความส่งเสริมสัมพันธ์กัน หมายความว่า เมื่อมองโดยแยกภาพและข้อความออกจากกัน ทั้งสองอย่างก็สามารถสื่อความหมายได้ดีอยู่แล้ว แต่เมื่อนำมารวมกัน ภาพจะยิ่งส่งเสริมให้ข้อความชัดเจนขึ้น ส่วนข้อความก็ยิ่งส่งเสริมให้ภาพคมชัด สื่อความหมายได้ตรงมากขึ้น เช่น ข้อความว่า “ช้อปปิ้งถูกสุดๆ ช็อคตาค้าง” และมีภาพประกอบเป็นผู้หญิงถือถุงช้อปปิ้งยิ้มอ้าปาก ทำตาโตและทำท่าโปรยเงิน เป็นต้น จากตัวอย่างนี้จะเห็นได้ว่าถ้าอยู่บนป้ายโฆษณาเดียวกันจะช่วยเพิ่มอารมณ์ความรู้สึกของผู้อ่านได้มากขึ้นด้วย
5) การจัดองค์ประกอบบนป้ายโฆษณา องค์ประกอบหลักๆ บนป้ายโฆษณาประกอบไปด้วย ข้อความและภาพและสีสัน ทุกอย่างต้องสมดุลกัน ไม่ขัดกันเอง ไม่ทำให้รู้สึกไม่สบายตา สำหรับภาพจะต้องสื่อสารกับผู้อ่านอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น อาจเป็นภาพสินค้าที่ถ่ายมาอย่างดี เป็นภาพของคนกำลังใช้สินค้า หรือ ประโยชน์ของสินค้า ฯลฯ ส่วนสีสันก็ต้องสื่ออารมณ์สอดคล้องไปกับธีมของป้ายโฆษณา ไม่ใช่ว่ากำลังพูดถึงซัมเมอร์แต่เน้นโทนสีม่วงก็ดูขัดกันเกินไป
หลักง่ายๆ ในการจัดองค์ประกอบบนป้ายโฆษณา คือ ตัวอักษรต้องเด่นชัด อ่านง่าย ตัวใหญ่ ใช้ข้อความที่กระชับ แต่สื่อความหมายได้ดี (ไม่สั้นเกินไปเพราะอ่านไม่รู้เรื่องและไม่ยาวเกินไปเพราะอ่านไม่ออก ยิ่งถ้าขับรถผ่านก็จะอ่านไม่ทัน) ซึ่งในองค์ประกอบนี้เป็นงานที่ท้าทายมาก เพราะเป็นตัวชี้วัดได้เลยว่าจะไปกระทบความรู้สึกของคนอ่านได้หรือไม่ ถ้าข้อความโดนหลังจากอ่านแล้ว ผู้อ่านจะเกิดความอยากได้สินค้าของเราทันที ดังนั้นนี่จึงเป็นงานยากสำหรับการทำป้ายโฆษณา ต้องคิดแทนว่าผู้อ่านอยากอ่านอะไรและจะได้อะไรจากการอ่านข้อความบนป้ายโฆษณาของเรา ซึ่งในบริษัทใหญ่ๆ มักจะมีทีม copywriter ทำหน้าที่คิดคำโฆษณาเด็ดๆ
รูปภาพต้องจัดเรียงให้พอดี รูปภาพต้องเลือกรูปภาพที่สวยงาม คมชัด พิกเซลไม่แตก มีความเหมาะสมกับข้อความ ไม่ใส่มากเกินไปจนดูรก หรือใส่น้อยไปจนดูไม่น่าสนใจ อย่างไรก็ตามเทคนิคการวางภาพบนป้ายโฆษณามีหลายวิธี เช่น ใช้เพื่อประกอบข้อความ, ใช้เป็นพื้นหลังป้ายโฆษณา หรืออาจจะเน้นให้รูปภาพเด่นกว่าข้อความก็ได้ แต่ไม่ว่าจะเป็นวิธีไหนก็ควรทำให้ชัดเจนในวิธีนั้น ไม่ควรให้ภาพมาบังตัวอักษรจนอ่านไม่ออก หรือถ้าทำเป็นแบล็คกาวน์ก็ควรปรับสีให้อ่อนลง เพื่อเพิ่มความน่าสนใจให้กับข้อความ เป็นต้น
ในเรื่องของการจัดองค์ประกอบรูปภาพ Herman F. Brandt  ได้ทำการศึกษาเกี่ยวกับจุดสนใจซึ่งเป็นตำแหน่งที่เด่นที่สุดของภาพโดยวัดจากจากการมองในกรอบสี่เหลี่ยมของขนาดกระดาษ ได้ผลสรุปจุดสนใจในการมองของคนเรา ดังนี้

41%   20%
25%   14%

ในส่วนของสีสันควรเลือกโทนสีที่ไม่ขัดกันเองในป้ายโฆษณา เพราะแทนที่จะสวยกลับดูรกและไม่น่าสนใจไปเลย แต่ถ้าเลือกสีได้ลงตัว ป้ายโฆษณาของเราก็จะดูมีรสนิยมและสร้างความน่าเชื่อถือได้ด้วย
6) ใช้วัสดุคุณภาพ ไม่ว่าป้ายโฆษณานั้นจะทำมาจากวัสดุประเภทใดก็ควรยึดให้มั่นว่าควรใช้ของที่มีคุณภาพ อย่าเพียงประหยัดในเรื่องเล็กน้อย คิดว่าซื้อของเกรด B ถูกกว่าเกรด A หลายบาทเลยเลือกใช้ของเกรด B แต่ถ้าลองพิสูจน์กันจริงๆ จะรู้ว่าของที่มีคุณภาพมีราคาถูกกว่า ดูจากความคุ้มค่า คงทน  เน้นอายุการใช้งานหลายปี ซึ่งถ้าหากเลือกใช้ของที่ไม่มีคุณภาพผ่านไปไม่กี่ปีต้องมาเสียค่าซ่อมแซม และต้องเสียเวลามาดูแลอีกด้วย ในกรณีที่เป็นป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ติดตั้งนอกอาคาร ต้องใช้ไม้ หรือโครงสร้างเหล็ก ยิ่งจำเป็นต้องเลือกของที่มีคุณภาพ มีความคงทนแข็งแรง เพราะภายนอกอาคารต้องเจอกับปัญหาต่างๆ เช่น ลมแรง ฝนตก การเลือกใช้ของที่มีคุณภาพจะช่วยลดรายจ่ายด้านการดูแลและเพิ่มความปลอดภัยสำหรับผู้ใช้งานอีกด้วย
ตัวอย่างป้ายโฆษณาโดนๆ จากต่างประเทศ
                รู้กันดีว่าในต่างประเทศ วงการโฆษณาแข่งขันกันอย่างดุเดือดและเป็นแหล่งรวมครีเอทีฟฝีมือดีไว้มากมาย ดังนั้นคุณสามารถเห็นบิลบอร์ดเก๋ๆ ไอเดียโดนๆ ได้ทั่วไป ยกตัวอย่างมาฝากกันเล็กน้อย ดังนี้
ป้ายโฆษณา 1
ป้ายโฆษณา 2

4 ความคิดเห็น:

  1. ป้ายไวนิล(vinyl)คือ ป้ายที่มีผ้าใบ หรือไวนิลเป็นวัสดุหลัก ลักษณะของไวนิลจะมีความยืดหยุ่นสูง ทนแดด ทนฝน และสภาพอากาศได้ดีกว่าวัสดุพิมพ์ประเภทอื่น อีกทั้งราคาที่ไม่แพงนักในปัจจุบัน ทำให้เจ้าของกิจการส่วนใหญ่มักทำป้ายไวนิล ในการทำสื่อโฆษณาต่างๆ ทำให้สังเกตได้ว่าถ้าเราเดินไปตามถนน ตรอก ซอก ซอยต่างๆ ก็จะเห็นป้ายไวนิลอยู่เต็มไปหมด มีทั้งแขวนตามหน้าร้าน และติดบนโครงเหล็กขนาดใหญ่ด้านหน้าร้านเลยก็มี ผ้าไวนิลเองก็จะถูกนำไปเป็นวัสดุหลักของป้ายโฆษณาทุกประเภท เนื่องจากการติดตั้งและจัดเก็บง่าย สะดวก และมีความสวยงามด้วย ทำให้สื่อประเภทป้ายไวนิล ยังคงเป็นป้ายที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบันและอีกหลายๆปีข้างหน้าด้วย คงยากที่จะมีสื่อโฆษณาใดมาทดแทนสื่อชนิดนี้ได้อย่างแน่นอน

    ตอบลบ
  2. ป้ายโฆษณามีการแบ่งออกเป็นประเภทใหญ่ๆตามรูปแบบการนำไปใช้งาน ได้ 2 ประเภท ได้แก่
    1.ป้ายสำหรับติดตั้งภายในอาคาร ส่วนใหญ่จะเป็นป้ายที่เน้นไปที่ความคมชัดของตัวป้าย เนื่องจากจะเป็นป้ายระยะไกล้หรือระยะสายตาของผู้บริโภคและ บางครั้งตัวป้ายจะมีรายละเอียดเล็กๆน้อยๆเป็นจำนวนมากนั่นเอง หรือบางครั้งจะมีรายละเอียดของเนื้อหาค่อนข้างมาก ป้ายประเภทนี้ได้แก่ ป้ายสติ๊กเกอร์ตกแต่งร้าน ป้ายชื่อห้อง ป้ายชื่อร้าน ป้ายบอกทาง ป้ายเตือน ป้ายดิสเพลย์ ป้ายประชาสัมพันธ์ต่างๆ รวมทั้ง ป้ายกล่องไฟหน้าร้าน แอลอีดี(LED) นีออนไลท์ ป้ายชื่อร้าน เป็นต้น ป้ายที่ใช้ภายในอาคาร สามารถใช้วัสดุได้หลากหลาย เนื่องจากไม่มีปัญหากับสภาพอากาศภายนอก จึงทำให้สามารถดีไซน์วัสดุป้ายได้เกือบทุกชนิด เช่น แสตนเลส ซิงค์ ทองเหลือง ทองแดง ไม้ อะคริลิค พลาสวู๊ด แผ่นลามิเนต สติ๊กเกอร์ ฯลฯ
    2.ป้ายสำหรับติดตั้งภายนอกอาคาร ป้ายประเภทนี้ส่วนมากจะเน้นป้ายขนาดใหญ่ และตัวป้ายต้องมีความทนทานเป็นอย่างมาก วัสดุจะต้องมีความคงทน ทนต่อแสงแดด ทนต่อน้ำและฝน เนื่องจากตัวป้ายต้องสัมผัสกับสภาพอากาศ และสภาพแวดล้อมภายนอกตลอดเวลา ป้ายภายนอกนี้จะนิยมใช้โฆษณาโปรโมชั่น หรือประชาสัมพันธ์ที่ใช้ข้อความสั้นๆ กระชับ เข้าใจง่าย ป้ายประเภทนี้ได้แก่ ป้ายโครงเหล็กหน้าอาคาร ป้ายแผงตัวซี ป้ายตัวอักษรโลหะขนาดใหญ่ ป้ายบิลบอร์ด ป้ายแบนเนอร์ผนังตึก ป้ายทาวเวอร์ ป้ายเสาตั้ง ป้ายกล่องไฟขนาดใหญ่ ป้ายอลูมิเนียม ป้ายสแตนเลส เป็นต้น

    ตอบลบ
  3. ป้ายคัทเอาท์(cutout)คือ เป็นสื่อโฆษณาภายนอกอาคาร ลักษณะของป้ายจึงต้องทนแดด ทนฝน สภาพดินฟ้าอากาศ พายุ ป้ายคัทเอาท์ส่วนใหญ่นิยมทำด้วยโครงไม้ เหมาะสำหรับโฆษณาตามถนน และงานติดตั้งทั่วไปตามจุดสำคัญต่างๆที่สามารถดึงดูดสายตาของผู้พบเห็นเวลาสัญจรผ่านไปมา วัสดุหลักของป้ายส่วนมากจะพิมพ์ไวนิลด้วยหมึกคุณภาพสูง ขึงบนโครงไม้ แล้วนำไปติดตั้งตามจุดที่กำหนด เช่น ริมถนน ริมฟุตบาท เป็นต้น

    ตอบลบ
  4. Ph.D Dr.Samai Hemman ดร.สมัย เหมมั่น DBA GM บ้านสิวารัตน์ ของดีมีคุณภาพ ที่ดี ราคาประหยัด โทร 02-801-1802-6 เขมครับ 0868888862 ยุ้ย ค่ะ สนับสนุนโครงการของรัฐบาล ผู้มีรายได้น้อย และข้าราชการ ทุกท่าน สนใจเยี่ยมชมที่โครงการทุกวัน บ้านสิวารัตน์ เริ่ม ที่ท่านมีรายได้เพี่ยง 300 บาท ท่านก็รับบ้านสิวารัตน์ ได้แล้ว ครับ

    ตอบลบ